หมวดหมู่สินค้า: ฟูกที่นอนแบบต่างๆ
รหัส : Softform Premier
โฟมหนา 2 ชั้น ใช้ป้องกันแผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุที่นอนเป็นเวลานาน ป้องกันแผลกดทับ และช่วยให้นอนสบายยิ่งขึ้น สินค้านำเข้าจากอเมริกา
จาก 25,900.00 บาท
ลดทันที 2000 บาท
ราคา 23,900.00 บาท
14 พฤศจิกายน 2567
ผู้ชม 6753 ผู้ชม
ที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับ
INVACARE รุ่น Softform® Premier
"สินค้านำเข้าจากอเมริกา (Made in USA)ช่วยกระจายแรงกดทับและป้องกันการเกิดแผลกดทับ"
ข้อบ่งใช้ของที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับ
- เป็นที่นอนที่ออกแบบมาเพื่อช่วยกระจายแรงกดทับแนะนำสําหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงมาก (Very high risk) ที่จะเกิดแผลกดทับ เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากๆ ผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มจะนอนติดเตียง หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลง
คุณสมบัติและลักษณะทั่วไป
1. คุณสมบัติทั่วไป
- ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) 88 x 197 x 15 ซม.
- น้ำหนัก 13 กิโลกรัม
- สามารถรับน้ําหนักได้ 247 กิโลกรัม
-
เป็นผลิตภัณฑ์ Invascare Ltd. สหรัฐอเมริกา (Made in USA) ได้มาตรฐาน ISO13485
2. รายละเอียดคุณสมบัติ
- ขั้นนอกออกแบบด้วยเทคโนโลยี SRT (Strikethrough resistant technology) วัสดุเคลือบแบบพิเศษ มีความทนทาน ง่ายต่อการทําความสะอาด มีความยืดหยุ่นสูง ไม่อมความร้อน สามารถถ่ายเทความชื้นได้ดี ช่วยยั้บยั้งการเติบโตของเชื้อโรค ป้องกันการติดเชื้อ
- ตัวซิปด้านข้างป้องกันการซึมเปื้อนจากภายนอก เพื่อลดความเสี่ยงที่ของเหลวจะเข้าไปปนเปื้อนเนื้อโฟมด้านในเพื่อปกป้องและควบคุมการติดเชื้อ
- มีซิปทั้ง 4 ด้าน แยกแผ่นด้านบน และล่างออกจากกัน ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ตราวจสอบโฟมด้านในได้ง่าย ยังประหยัดเมื่อต้องการเปลี่ยนชิ้นด้วย
- แผ่นด้านล่างเป็นสีเทา ปกป้องที่นอนในการเคลื่อนย้าย และการใช้งาน
- โฟมด้านในถูกตัดโค้งโดยการตัดแบบหยดน้ำตาบนฐานรับด้านล่าง ซึ่งออกแบบให้สอดรับกับสรีระวิทยาและสอดรับกับการเคลื่อนไหวในท่าต่างๆของร่างกายขณะนอนหลับ ออกแบบพิเศษเพื่อลดแรงเฉือน และแรงเสียดทานขณะที่ร่างกายเคลื่อนไหว ทําให้รู้สึกสบายเวลานอนหลับ และกระจายแรงกดทับได้อย่างดีเยี่ยม
- เนื้อโฟมด้านในไม่มีกาว ทําให้ใช้ได้ดีกับเตียงปรับระดับ และสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี ไม่ร้อนอบอ้าว
- ฐานรับที่นอนเป็นชิ้นเดียว รูปตัว U ทําให้เคลื่อนย้ายง่าย โฟมด้านในไม่หลุดออกจากฐาน
- ไม่ต้องกลับด้าน หรือสลับด้านที่นอน สะดวกลดเวลาการดูแลรักษา
- โครงสร้างแต่ละส่วนแยกจากกันจึงสามารถเปลี่ยนแต่ละส่วนได้เมื่อชำรุด
3. รายละเอียดการรับประกัน
- ที่นอน รับประกัน 5 ปี จากการใช้งานปกติ
- ที่คลุมที่นอนชั้นนอก รับประกัน 5 ปี
- แถมฟรี !! ผ้าห่มขนนุ่ม Invacare 1 ผืน
ได้รับของแถมสุดพิเศษ!! ที่นี่ที่เดียว!!
เป็นผลิตภัณฑ์ Invascare Ltd. ประเทศประเทศสหรัฐอเมริกา (Made in USA)
ผลิตได้มาตรฐาน ISO13485
อ่านคำเตือนในฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้
ใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์เลขที่ ฆพ.1842/2567
แผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง
- ปัญหาใหญ่สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงที่เกิดมากที่สุดและสร้างปัญหามากเป็นอันดับต้นๆ คือ ปัญหาแผลกดทับแผลกดทับเกิดจากการที่ผิวหนังถูกกดทับมาเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่องจนทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงบริเวณผิวหนังตำแหน่งที่ถูกกดทับ จะส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีลักษณะเป็น รอยแดง รอยคล้ำ เกิดเนื้อตาย เกิดแผลบริเวณผิวหนัง มีความอับชื้น เกิดเป็นแผลเรื้อรัง และมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลติดเชื้อ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานที่จะมีอาการของแผลที่ลุกลามได้ง่าย หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องความอ้วนมากๆ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แผลกดทับเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ถ้าเป็นแล้วหากไม่รีบรักษานอกจากรุนแรงจนต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล อาจเกิดการติดเชื้อจากแผลกดทับอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
ตำแหน่งที่มักเกิดแผลกดทับ
- แผลกดทับมักพบได้บ่อยในบริเวณตำแหน่งผิวหนังที่รับน้ำหนักตัว หรือบริเวณผิวหนังที่อยู่ติดกับกระดูก ปัญหาแผลกดทับเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว ทำกิจกรรมได้น้อย ผู้ป่วยนอนติดเตียง ผู้ป่วยอัมพาต อัมพฤกษ์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ตำแหน่งที่มักเกิดแผลกดทับ ได้แก่ บริเวณด้านหลังศรีษะและบริเวณหู บริเวณไหล่ บริเวณข้อพับแขน บริเวณก้น บริเวณสะโพก บริเวณเข่า บริเวณข้อเท้า
ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดแผลกดทับ
- ผู้ป่วยขาดการเคลื่อนไหวเช่น นอนติดเตียงตลอดเวลาหรือ ไม่สามารถขยับได้ ทำให้ร่างกายถูกกดทับเป็นเวลานาน เลือดไหลเวียนได้ไม่เพียงพอ
- ผู้สูงอายุจะมีผิวแห้งเพราะขาดความชุ่มชื้นตามวัย เนื่องจากผู้สูงอายุผิวหนังจะบอบบางลง สูญเสียความยืดหยุ่นและการไหลเวียนของเลือดลดลงตามวัย
- ผู้สูงอายุที่มีภาวะโภชนาการไม่ดี ปัญหาโภชนาการไม่เพียงพอ อาจเกิดจากปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ เช่นสุขภาพปากและฟัน มีปัญหาเรื่องการกลืน ปัญหาด้านสุขภาพจิต
- ผู้ป่วยที่ควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ จะทำให้เกิดความอับชื้นจากการใส่ผ้าอ้อมขณะนอนหลับ ผิวหนังถูกเสียดสีจากเนื้อผ้าหรือมีการอับชื้น
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับเส้นเลือด
การแบ่งระดับแผลกดทับ
- ระดับที่ 1 ผิวหนังจะยังไม่เกิดการฉีกขาด จะเกิดเพียงแค่รอยแดงเฉพาะที่
- ระดับที่ 2 บริเวณแผลกดทับผู้ป่วยจะสูญเสียชั้นผิวหนังบางส่วนจน มองเห็นชั้นผิวหนังแท้ และอาจจะพบลักษณะของตุ่มน้ำใส หรือตุ่ม น้ำใสที่แตกได้
- ระดับที่ 3 ผู้ป่วยจะสูญเสียชั้นผิวหนังทั้งหมดจนมองเห็นชั้นไขมัน บริเวณที่มีไขมันมากมักจะเกิดแผลลึก และอาจพบโพรงใต้ ขอบแผล หรือโพรงแผล
- ระดับที่ 4 เกิดแผลลึกจนมองเห็นถึงกระดูก เอ็น กล้ามเนื้อ ผู้ป่วยจะสูญเสียชั้นผิวหนัง และชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังทั้งหมด จะมองเห็นหรือสัมผัสเนื้อเยื่อพังผืด กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกหรือกระดูกอ่อนในบริเวณพื้นแผลได้
วิธีการป้องกันการเกิดแผลกดทับ
- การจัดท่าทาง การปรับเปลี่ยนท่าทางของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันการเกิด แผลกดทับได้ดี หมั่นพลิกตะแคงตัว เปลี่ยนท่านอนอย่างน้อยทุกๆ 2 ชั่วโมง ออกกำลัง ขยับแขน, ขา และข้อต่อต่างๆ ให้ผู้ป่วยเป็นประจำ
- ดูแลความสะอาดผิวหนังไม่ให้อับชื้นหรือแห้งเกินไป ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นแผลกดทับ ควรหมั่นตรวจผิวหนังอยู่เสมอว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือมีความผิดปกติใด ๆ หรือไม่
- ดูแลที่นอนให้สะอาด แห้ง อากาศถ่ายเทอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น
- การดูแลเรื่องโภชนาการเป็นสิ่งที่จำเป็น ผู้ป่วยจะต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารจำพวกโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่อย่างครบถ้วนถูกต้องตามหลักโภชนาการ สารอาหารเหล่านี้จะไปช่วยเร่งกระบวนการฟื้นตัวของผิวหนังที่ถูกทำลายได้เป็นอย่างดี ช่วยให้หายเร็วขึ้น
- ใช้อุปกรณ์ช่วยลดแรงกดทับ เช่น ที่นอนลม หรือ ที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับ
ควรเลือกที่นอนแบบไหนดี
- ปัจจัยหลักๆในการเลือกที่นอนป้องกันแผลกดทับนอกจากคุณสมบัติในการลดการเกิดแผลกดทับแล้ว ยังมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือความสบาย อายุการใช้งาน ความทนทาน การรับประกันจากผู้ขาย งานบริการหลังการขาย และความเหมาะสมในการใช้งานของผู้ป่วย
ประเภทของที่นอนป้องกันแผลกดทับ
- ที่นอนลม ที่นอนลมคืออุปกรณ์ที่ช่วยกระจายแรงกดทับทำงานโดยเครื่องปั๊มลมไฟฟ้า ตัวที่นอนจะมีการสลับยุบพองอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผิวหนังบริเวณนั้นไม่ถูกกดทับเป็นเวลานานเป็นการลดความรุนแรงในการเกิดแผลกดทับลงที่นอนลมแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน คือ
- ที่นอนลมแบบลอน ที่นอนลมแบบลอนจะมีข้อดีคือในกรณีที่โดนของมีคม ทำให้ลอนรั่วแตกเสียหาย หรือมีลอนใดลอนหนึ่งชำรุด จะสามารถถอดเปลี่ยนลอนได้ ไม่ต้องซื้อที่นอนใหม่เปลี่ยนทั้งผืน เปลี่ยนเฉพาะลอนที่เสียหาย ค่าใช้จ่ายจะประหยัดกว่า ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนลอน โดยประมาณลอนละ 200-250 บาท การเลือกที่นอนลมควรเลือกที่นอนลมที่มีความทนทาน วัสดุระบายความร้อนได้ดี นอนแล้วไม่อบอ้าว และที่สำคัญที่สุดควรเลือกที่นอนลมรุ่นที่เครื่องปั้มลมทำงานเสียงเบาจะได้ไม่รบกวนเวลานอนหลับ มีการรับประกันจากผู้ขาย มีบริการหลังการขาย
- ที่นอนลมแบบรังผึ้ง ใช้ในการสลับความดันลมสลับยุบพองในแต่ละจุดมีการสลับพองยุบอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันกับแบบลอน และสามารถปรับระดับความนิ่มของที่นอนได้เหมือนกันกับแบบลอน ที่นอนลมแบบรังผึ้งทำความสะอาดง่าย หากผู้ป่วยจะต้องทายาเพื่อรักษาแผลกดทับ หรือผู้ป่วยที่ระบบการขับถ่ายมีปัญหาที่นอนลมแบบรังผึ้งก็เหมาะเพราะทำความสะอาดได้ง่ายกว่าที่นอนลมแบบลอน แต่มีข้อเสียที่ต้องระวังคือถ้าหากโดนของมีคมทำให้ที่นอนแตกหรือรั่วจะต้องทำการปะรอยรั่ว ซึ่งในกล่องอุปกรณ์มักจะแถมอุปกรณ์สำหรับซ่อมแซมที่นอนลมไว้ในชุดด้วย แต่ในปัจจุบันมีที่นอนลมแบบรังผึ้งรุ่นใหม่ๆ ที่ออกแบบเลือกใช้วัสดุที่ทนทานต่อของมีคม ทำให้รั่วแตกยาก ดังนั้นก็ควรเลือกที่นอนลมรุ่นที่วัสดุทนทาน และมอเตอร์ปั้มลมทำงานเสียงเบา มีการรับประกันจากผู้ขาย มีบริการหลังการขาย
- ที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันแผลกดทับได้เช่นเดียวกับที่นอนลม ประสิทธิภาพในการป้องกันแผลกดทับเทียบเท่ากับที่นอนลม แต่ข้อดีที่มากกว่าคือช่วยให้นอนสบายตัวกว่า ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายเวลานอนหลับ ที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับจะไม่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเสียงดังจากเครื่องปั๊มลมรบกวนในเวลานอนหลับ
คลิ๊ก!! เพื่อสอบถามโปรโมชั่นเพิ่มเติม
** สอบถามข้อมูลสินค้า
ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
Line ID : @cumedicalhome
โทร. 086-368-5766
โทร. 062-046-5757
**ส่งสินค้าให้ท่านอย่างมั่นใจ รวดเร็วทันใจ จัดส่งฟรีทั่วประเทศ!!