หมวดหมู่สินค้า: ฟูกที่นอนแบบต่างๆ
รหัส : Funke Hyperfoam 2
ใช้ป้องกันแผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุที่นอนเป็นเวลานาน ช่วยป้องกันแผลกดทับได้ดีเยี่ยม ผ่านการทดสอบในผู้ป่วยแผลกดทับระดับสูง (ระดับที่ 4)
จาก 23,500.00 บาท
ลดทันที 3600 บาท
ราคา 19,900.00 บาท
12 กรกฎาคม 2566
ผู้ชม 7473 ผู้ชม
ที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับ Funke Hyperfoam 2
สินค้านำเข้าจากเยอรมัน รับประกัน 5 ปี
"นวัตกรรมชั้นโฟม 3 ชั้น ช่วยลดความเจ็บปวด ช่วยป้องกันแผลกดทับได้ดีเยี่ยม ผ่านการทดสอบในผู้ป่วยแผลกดทับระดับสูง (ระดับที่ 4)"
ข้อบ่งใช้ของที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับ
- เป็นที่นอนที่ออกแบบมาเพื่อช่วยกระจายแรงกดทับแนะนำสําหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงมาก (Very high risk) ที่จะเกิดแผลกดทับ เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากๆ ผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มจะนอนติดเตียง หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลง
คุณสมบัติและลักษณะทั่วไป
1. คุณสมบัติทั่วไป
- ขนาด (กว้าง x ยาว x หนา) 860 x 1960 x 150 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 12 กิโลกรัม
- สามารถรับน้ําหนักได้ 150 กิโลกรัม
2. รายละเอียดคุณสมบัติ
- เป็นที่นอนฟูกทางการแพทย์สำหรับรองนอนเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ ผลิตจาก PUR foam ที่ออกแบบมาพิเศษโดยมีชั้นโฟม 3 ชั้น ช่วยกระจายแรงกดทับได้ดียิ่งขึ้น ใช้ในผู้ป่วยที่มีแผลกดทับในระดับสูงได้ดีเยี่ยม
- การออกแบบให้มีชั้นโฟม 3 ชั้น นอกจากช่วยเรื่องแผลกดทับแล้ว ยังช่วยในเรื่องระบายความร้อนและลดความอับชื้นในขณะที่ผู้ป่วยนอนหลับ
- รองรับน้ำหนักได้สูงสุด150 กิโลกรัม
- ตัววัสดุเนื้อโฟมและปลอกหุ้มด้านนอก ผ่านกระบวนการเคลือบสารป้องกันยั้บยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้สามารถควบคุมการติดเชื้อได้ดี (Infection control approved)
- มีวัสดุปลอกหุ้มคลุมกันน้ำที่ผลิตจากโพลียูรีเทน (Polyurethane – PU) มีคุณสมบัติป้องกันน้ำได้อย่างดีเยี่ยม มีความยืดหยุดสูง ไม่อมความร้อน ระบายอากาศได้ดี นอนแล้วไม่ร้อนอบอ้าว ไม่ก่อเกิดความระคายเคืองต่อผิวหนัง ไม่ก่อการแพ้ เคลือบด้วยสารป้องกันยั้บยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย สามารถถอดนำมาซักทำความสะอาดได้ สามารถเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อได้ สามารถทนความร้อนได้สูงสุดถึง 95 °C
- มีความสามารถในการช่วยกระจายแรงกดทับได้อย่างดีเยี่ยม ทดสอบกับผู้ป่วยที่มีแผลกดทับในระดับที่ 4 ตามหลัก EPUAP ช่วยลดการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เนื้อโฟมจะช่วยลดแรงกดทับ ช่วยกระจายแรงกดทับระหว่างผู้ป่วยและผิวที่นอนโฟม ออกแบบให้สอดรับกับสรีระวิทยาและโครงสร้างกระดูก สอดรับกับการเคลื่อนไหวในท่าต่างๆของร่างกายขณะนอนหลับ ออกแบบพิเศษเพื่อลดแรงเฉือน และแรงเสียดทานขณะที่ร่างกายเคลื่อนไหว ทําให้รู้สึกสบายเวลานอนหลับ และกระจายแรงกดทับได้อย่างดีเยี่ยม
- พื้นผิวของโฟมด้านบนเป็นแผ่นเรียบสนิท ทำความสะอาดง่าย ด้านล่างมีช่องว่างระหว่างชั้นโฟมช่วยให้อากาศถ่ายเทได้
- มีการเติมสารป้องกันการลุกไหม้ของเปลวไฟ เพื่อให้วัสดุนั้นสามารถดับไฟเองได้ หากเกิดประกายไฟ
- ที่นอนโฟมสามารถเข้าเครื่องฆ่าเชื้อ Autoclave ได้ที่อุณหภูมิสูงสุด 105°C หรือ 221°F
- ตัวเนื้อโฟมมีความหนาแน่นสูง ไม่ยวบ และมีการเสริมขอบด้านข้าง จึงทำให้ผู้ป่วยสามารถลุกขึ้นนั่งหรือปรับท่าทางได้อย่างมั่นคง ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถนั่งพักบริเวณข้างเตียงได้อย่างทรงตัว
- ทำความสะอาดง่าย สามารถใช้น้ำหรือน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดถูได้ ทนต่อความเข้มข้นของน้ำยาฆ่าเชื้อ (ผ่านมาตรฐาน RKI-Guideline แล้ว ว่าสามารถฆ่าเชื้อตามมาตรฐานด้วยวิธีการเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อได้) ไม่มีร่องระหว่างลอนหรือรูท่อลมให้ต้องเก็บรายละเอียดทั้งยังหมดห่วงเรื่องของเชื้อสะสมในห่อลมหรือปั๊มลมที่อาจแพร่กระจายได้ทางอากาศอีกด้วย
- สามารถใช้ได้กับเตียงผู้ป่วยทุกรูปแบบทั้งเตียงปกติและเตียงไฟฟ้าตั้งแต่ 2 – 5 ไกร์ โดยตัวที่นอนโฟมสามารถปรับเข้ากับการจัดท่าของเตียงแบบต่างๆ
- ออกแบบบรรจุแบบสุญญากาศเพื่อลดพื้นที่ และขนาดบรรจุง่ายต่อการเคลื่อนย้าย
- โครงสร้างแต่ละส่วนแยกจากกันจึงสามารถเปลี่ยนแต่ละส่วนได้เมื่อชำรุด
- สินค้ามาตฐานสากลนำเข้าจากประเทศเยอรมัน
3. รายละเอียดการรับประกัน
- ที่นอน รับประกัน 5 ปี
- ที่คลุมที่นอนชั้นนอก รับประกัน 1 ปี
อ่านคำเตือนในฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้
ใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์เลขที่ ฆพ.2009/2562
แผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง
- ปัญหาใหญ่สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงที่เกิดมากที่สุดและสร้างปัญหามากเป็นอันดับต้นๆ คือ ปัญหาแผลกดทับแผลกดทับเกิดจากการที่ผิวหนังถูกกดทับมาเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่องจนทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงบริเวณผิวหนังตำแหน่งที่ถูกกดทับ จะส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีลักษณะเป็น รอยแดง รอยคล้ำ เกิดเนื้อตาย เกิดแผลบริเวณผิวหนัง มีความอับชื้น เกิดเป็นแผลเรื้อรัง และมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลติดเชื้อ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานที่จะมีอาการของแผลที่ลุกลามได้ง่าย หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องความอ้วนมากๆ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แผลกดทับเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ถ้าเป็นแล้วหากไม่รีบรักษานอกจากรุนแรงจนต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล อาจเกิดการติดเชื้อจากแผลกดทับอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
ตำแหน่งที่มักเกิดแผลกดทับ
- แผลกดทับมักพบได้บ่อยในบริเวณตำแหน่งผิวหนังที่รับน้ำหนักตัว หรือบริเวณผิวหนังที่อยู่ติดกับกระดูก ปัญหาแผลกดทับเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว ทำกิจกรรมได้น้อย ผู้ป่วยนอนติดเตียง ผู้ป่วยอัมพาต อัมพฤกษ์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ตำแหน่งที่มักเกิดแผลกดทับ ได้แก่ บริเวณด้านหลังศรีษะและบริเวณหู บริเวณไหล่ บริเวณข้อพับแขน บริเวณก้น บริเวณสะโพก บริเวณเข่า บริเวณข้อเท้า
ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดแผลกดทับ
- ผู้ป่วยขาดการเคลื่อนไหวเช่น นอนติดเตียงตลอดเวลาหรือ ไม่สามารถขยับได้ ทำให้ร่างกายถูกกดทับเป็นเวลานาน เลือดไหลเวียนได้ไม่เพียงพอ
- ผู้สูงอายุจะมีผิวแห้งเพราะขาดความชุ่มชื้นตามวัย เนื่องจากผู้สูงอายุผิวหนังจะบอบบางลง สูญเสียความยืดหยุ่นและการไหลเวียนของเลือดลดลงตามวัย
- ผู้สูงอายุที่มีภาวะโภชนาการไม่ดี ปัญหาโภชนาการไม่เพียงพอ อาจเกิดจากปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ เช่นสุขภาพปากและฟัน มีปัญหาเรื่องการกลืน ปัญหาด้านสุขภาพจิต
- ผู้ป่วยที่ควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ จะทำให้เกิดความอับชื้นจากการใส่ผ้าอ้อมขณะนอนหลับ ผิวหนังถูกเสียดสีจากเนื้อผ้าหรือมีการอับชื้น
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับเส้นเลือด
การแบ่งระดับแผลกดทับ
- ระดับที่ 1 ผิวหนังจะยังไม่เกิดการฉีกขาด จะเกิดเพียงแค่รอยแดงเฉพาะที่
- ระดับที่ 2 บริเวณแผลกดทับผู้ป่วยจะสูญเสียชั้นผิวหนังบางส่วนจน มองเห็นชั้นผิวหนังแท้ และอาจจะพบลักษณะของตุ่มน้ำใส หรือตุ่ม น้ำใสที่แตกได้
- ระดับที่ 3 ผู้ป่วยจะสูญเสียชั้นผิวหนังทั้งหมดจนมองเห็นชั้นไขมัน บริเวณที่มีไขมันมากมักจะเกิดแผลลึก และอาจพบโพรงใต้ ขอบแผล หรือโพรงแผล
- ระดับที่ 4 เกิดแผลลึกจนมองเห็นถึงกระดูก เอ็น กล้ามเนื้อ ผู้ป่วยจะสูญเสียชั้นผิวหนัง และชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังทั้งหมด จะมองเห็นหรือสัมผัสเนื้อเยื่อพังผืด กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกหรือกระดูกอ่อนในบริเวณพื้นแผลได้
วิธีการป้องกันการเกิดแผลกดทับ
- การจัดท่าทาง การปรับเปลี่ยนท่าทางของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันการเกิด แผลกดทับได้ดี หมั่นพลิกตะแคงตัว เปลี่ยนท่านอนอย่างน้อยทุกๆ 2 ชั่วโมง ออกกำลัง ขยับแขน, ขา และข้อต่อต่างๆ ให้ผู้ป่วยเป็นประจำ
- ดูแลความสะอาดผิวหนังไม่ให้อับชื้นหรือแห้งเกินไป ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นแผลกดทับ ควรหมั่นตรวจผิวหนังอยู่เสมอว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือมีความผิดปกติใด ๆ หรือไม่
- ดูแลที่นอนให้สะอาด แห้ง อากาศถ่ายเทอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น
- การดูแลเรื่องโภชนาการเป็นสิ่งที่จำเป็น ผู้ป่วยจะต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารจำพวกโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่อย่างครบถ้วนถูกต้องตามหลักโภชนาการ สารอาหารเหล่านี้จะไปช่วยเร่งกระบวนการฟื้นตัวของผิวหนังที่ถูกทำลายได้เป็นอย่างดี ช่วยให้หายเร็วขึ้น
- ใช้อุปกรณ์ช่วยลดแรงกดทับ เช่น ที่นอนลม หรือ ที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับ
ควรเลือกที่นอนแบบไหนดี
- ปัจจัยหลักๆในการเลือกที่นอนป้องกันแผลกดทับนอกจากคุณสมบัติในการลดการเกิดแผลกดทับแล้ว ยังมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือความสบาย อายุการใช้งาน ความทนทาน การรับประกันจากผู้ขาย งานบริการหลังการขาย และความเหมาะสมในการใช้งานของผู้ป่วย
ประเภทของที่นอนป้องกันแผลกดทับ
- ที่นอนลม ที่นอนลมคืออุปกรณ์ที่ช่วยกระจายแรงกดทับทำงานโดยเครื่องปั๊มลมไฟฟ้า ตัวที่นอนจะมีการสลับยุบพองอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผิวหนังบริเวณนั้นไม่ถูกกดทับเป็นเวลานานเป็นการลดความรุนแรงในการเกิดแผลกดทับลงที่นอนลมแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน คือ
- ที่นอนลมแบบลอน ที่นอนลมแบบลอนจะมีข้อดีคือในกรณีที่โดนของมีคม ทำให้ลอนรั่วแตกเสียหาย หรือมีลอนใดลอนหนึ่งชำรุด จะสามารถถอดเปลี่ยนลอนได้ ไม่ต้องซื้อที่นอนใหม่เปลี่ยนทั้งผืน เปลี่ยนเฉพาะลอนที่เสียหาย ค่าใช้จ่ายจะประหยัดกว่า ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนลอน โดยประมาณลอนละ 200-250 บาท การเลือกที่นอนลมควรเลือกที่นอนลมที่มีความทนทาน วัสดุระบายความร้อนได้ดี นอนแล้วไม่อบอ้าว และที่สำคัญที่สุดควรเลือกที่นอนลมรุ่นที่เครื่องปั้มลมทำงานเสียงเบาจะได้ไม่รบกวนเวลานอนหลับ มีการรับประกันจากผู้ขาย มีบริการหลังการขาย
- ที่นอนลมแบบรังผึ้ง ใช้ในการสลับความดันลมสลับยุบพองในแต่ละจุดมีการสลับพองยุบอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันกับแบบลอน และสามารถปรับระดับความนิ่มของที่นอนได้เหมือนกันกับแบบลอน ที่นอนลมแบบรังผึ้งทำความสะอาดง่าย หากผู้ป่วยจะต้องทายาเพื่อรักษาแผลกดทับ หรือผู้ป่วยที่ระบบการขับถ่ายมีปัญหาที่นอนลมแบบรังผึ้งก็เหมาะเพราะทำความสะอาดได้ง่ายกว่าที่นอนลมแบบลอน แต่มีข้อเสียที่ต้องระวังคือถ้าหากโดนของมีคมทำให้ที่นอนแตกหรือรั่วจะต้องทำการปะรอยรั่ว ซึ่งในกล่องอุปกรณ์มักจะแถมอุปกรณ์สำหรับซ่อมแซมที่นอนลมไว้ในชุดด้วย แต่ในปัจจุบันมีที่นอนลมแบบรังผึ้งรุ่นใหม่ๆ ที่ออกแบบเลือกใช้วัสดุที่ทนทานต่อของมีคม ทำให้รั่วแตกยาก ดังนั้นก็ควรเลือกที่นอนลมรุ่นที่วัสดุทนทาน และมอเตอร์ปั้มลมทำงานเสียงเบา มีการรับประกันจากผู้ขาย มีบริการหลังการขาย
- ที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันแผลกดทับได้เช่นเดียวกับที่นอนลม ประสิทธิภาพในการป้องกันแผลกดทับเทียบเท่ากับที่นอนลม แต่ข้อดีที่มากกว่าคือช่วยให้นอนสบายตัวกว่า ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายเวลานอนหลับ ที่นอนโฟมป้องกันแผลกดทับจะไม่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเสียงดังจากเครื่องปั๊มลมรบกวนในเวลานอนหลับ
คลิ๊ก!! เพื่อสอบถามโปรโมชั่นเพิ่มเติม
** สอบถามข้อมูลสินค้า
ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
Line ID : @cumedicalhome
โทร. 086-368-5766
โทร. 062-046-5757
**ส่งสินค้าให้ท่านอย่างมั่นใจ รวดเร็วทันใจ จัดส่งฟรีทั่วประเทศ!!